Ads Header

Pages

Saturday, July 2, 2011

วันนี้ 3 กค. 2554 เป็นวันเลือกตั้ง


วันนี้ 3 กค. 2554 เป็นวันเลือกตั้ง...
ผมออกไปเลือกตั้งตอนสายๆเพราะตอนเช้าฝนเทลงมาอย่างหนัก ในที่สุดก็เลือกพรรคเลือกคนตามที่ใจชอบและมองความสมเหตุสมผลครับ

มันเป็นเรื่องของเงินภาษีล้วนๆ เกณฑ์การเลือกของผมคือ
1. ใครก็ได้ที่เข้าไปแล้วทำประโยชน์ให้ประเทศชาติที่สามารถเห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน และได้ใช้งานจริงๆ
2. เงินภาษีที่รัฐเก็บไปจากผมต้องถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตราบใดที่ผมยังได้จากข้อหนึ่งอยู่

อยากได้คนที่เข้าไปทำงานครับ ไม่อยากได้ประเภทที่ดีแต่พล่าวน้ำลายรดไมค์ไปวันๆ แล้วแอบกินอยู่เบื้องหลัง...

เสือที่ล่าเหยื่อกินเป็นอาหารแล้วแบ่งเศษอาหารให้เหล่าบริวาณนั้นดีกว่าอย่างอื่นแน่ๆ
กินแล้วคายออกมาบ้างให้ประชาชนได้ใช้ผลงานของมันบ้าง ใครจะเลว จะชั่วยังไงก็เลือกครับ

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งคือนักการเมืองเน่าๆกันทุกคนครับ ไม่มีใครเป็นคนดีหรอก
มันดีกว่า กินอยู่ฝ่ายเดียว เอาเงินภาษีไปทุกปีแจ่ไม่เคยคืนอะไรให้ประชาชนเลย
Read more

Friday, July 1, 2011

Ender’s game เกมพลิกโลก...อ่านจบไปสามรอบยังอยากอ่านรอบที่ 4!

Ender’s Game
ผู้แต่ง : Orson Scott Card
ผู้แปล : ดร. ยรรยง เต็งอำนวย
ราคา : 279 บาท

ฉบับภาษาไทยแปลโดย ดร.ยรรยง เต็งอำนวย สนพ. ASK MEDIA
ผมอ่านเรื่อง Ender’s game จบเป็นรอบที่สองเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แตกต่างจากการอ่านครั้งแรกตรงที่ ครั้งที่สองจะอ่านแบบละเมียดและละเอียดกว่า ค่อยๆซึมซับเรื่องราวและสร้างจินตภาพจากตัวอักษรบนหน้ากระดาษให้เป็นจินตนาการที่แจ่มชัดในความคิด..
ผมอ่านรวดเดียวจบ โดยไม่รู้สึกเบื่อไม่ว่าจะเป็นบทไหน

หน้าปก Ender's game ฉบับแปลภาษาไทย

Ender’s game เป็นนิยายที่เขียนโดย Orson Scott Card กวาดรางวัลชนะเลิศ Hugo และ Nebula Award (รวมถึงเล่มสองที่เป็นภาคต่อของนิยายเรื่องนี้ด้วย ถูกแปลเป็นภาษาไทยในชื่อเรื่อง วาทกะ แด่ผู้ล่วงลับ หรือในชื่อภาษาอังกฤษคือ Speaker for the dead) …

เอนเดอร์เกม เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ แอนดรู วิกกิน ตัวเอกของเรื่องที่เป็นเด็กชายอายุเพียงหกขวบ แต่ต้องจากครอบครัวเพราะถูกเลือกให้ไปปฎิบัติภาระกิจระดับโลกคือ ฝึกเพื่อเป็นนายทหารบัญชาการรบกับพวกแมง (มนุษย์ต่างดาว) ที่มารุกรานโลก
เรื่องราวเริ่มจาก เอนเดอร์ถูกปลดเครื่องตรวจการณ์ออกและถูกนำตัวขึ้นไปฝึกที่สถานีนอกโลก เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมหลายมิติของอวกาศ ก่อนจะถูกส่งไปยังสถานที่ที่ซึ่งมีคอมพิวเตอร์จำลองพวกแมงในสถานการณ์ที่เอนเดอร์ต้องเผชิญหลังจากผ่านการฝึกและต้องลงสนามจริง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายไซไฟที่ลึกซึ้งมากๆครับ ยิ่งสามบทสุดท้ายแล้วเต็มไปด้วยปรัชญาและแนวคิดที่ดีเยี่ยม (บางแนวคิดสามารถนำไปต่อยอดเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องอื่นได้อีก) และที่สำคัญคุณจะต้องอึ้งกับการหักมุมในตอนจบที่คาดไม่ถึง (ไม่ขอเฉลยครับ)
สำนวนการแปลของคุณยรรยง ดีมากๆ อ่านแล้วอาจจะมีกลิ่นขนม นมเนยของภาษาต้นฉบับบ้าง (ทำให้อ่านไม่ค่อยลื่น) แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถรับอรรถรสของภาษาต้นฉบับได้เกือบเต็มร้อย (เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ น่าจะอ่านยาก ผมเดานะครับ)
ในแง่เนื้อหาหรือแนวคิดทางด้านไซไฟ ออสัน ได้คิดเทคโนโลยีที่เรียกว่า แอนซิเบิ้ล ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ไม่ต้องรอให้คลื่นสัญญาณเดินทางในอวกาศ แต่เป็นการสื่อสารแบบทันดีทันใดที่ผู้รับและผู้ส่งสารสามารถคุยกันได้หรือโต้ตอบกันได้ทันทีแม้จะอยู่คนละซีกของจักรวาลหรือทางช้างเผือก
ในแง่ของกลวิธีงานเขียน ออสันเล่าเรื่องผ่านตัวเอกได้สมบูรณ์แบบ ไม่เน้นอธิบายในสิ่งที่ไม่จำเป็นเช่นฉากบางฉาก หรือเครื่องมือเครื่องใช้ แต่จะเน้นที่ความรู้สึกนึกคิดของแอนเดอร์มากกว่า ท่านใดจะศึกษากลวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้สามารถอ่านเรื่องนี้ได้ครับ
มีฉบับ version cartoon comic ให้อ่านด้วยครับ




เกมพลิกโลก อาจจะหาซื้อยากครับ เพราะหนังสือวางแผงนานแล้ว มากกว่าสองปี และผมไม่เห็นมีการพิมพ์ซ้ำมาก่อน เดาว่าแนวนี้คงขายยากและแฟนนิยายไซไฟมีน้อยกว่าแนวกุ๊กกิ๊ก แต่ท่านใดที่เป็นแฟนแนวไซไฟไม่ควรพลาดครับ ลองหาซื้อดูที่คิโนะคุนิยะ สาขาสยามพารากอน น่าจะยังเหลืออยู่
อ่านจบแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่า นิยายเรื่องนี้ชนะเลิศรางวัลเนบิวลากับฮิวโกได้ยังไง
ขอบคุณ สนพ. ASK MEDIA ครับที่ซื้อ license นิยายสุดยอดเรื่องนี้มาให้อ่าน และขอบคุณ ดร.ยรรยงด้วยครับ ที่แปลนิยายดีๆแบบนี้ออกมา
เรื่อง Speaker for the dead ผมยังไม่ได้อ่านครับ ซื้อไว้นานแล้ว ยังไม่มีเวลาสร้างอารมณ์เพื่ออ่าน พลิกดูแล้วเนื้อหาเครียดกว่าเล่มแรกเยอะ และที่สำคัญ Speaker for the dead ก็ได้รางวัลเนบิวลากับฮิวโก้ด้วยครับ




http://www.blogger.com/img/blank.gif
ข้อมูลเพิ่มเติม
www.askmedia.co.th/book/show_book.php?id=23

เปิดตำนานแห่งมหากาพย์พิทักษ์จักรวาลของเอนเดอร์ วิกกิน

เมื่อโลกถูกรุกรานจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว ทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของชีวิตนับล้านอยู่ในกำมือของยอดขุนพลที่จะนำพาโลกให้พ้นจากมหันตภัยนี้

เอนเดอร์ วิกกิน เด็กน้อยอัจฉริยะ ได้รับคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนสัประยุทธ์ สถาบันเพาะบ่มเหล่าจอมทัพแห่งกองกำลังพิทักษ์โลก ภายใต้การฝึกฝนที่นำเอาเด็กอัจฉริยะจากทั่วทุกสารทิศมาเล่นเกมแข่งกัน ผนวกกับแผนการลับที่คอยกำหนดเงื่อนไขในการฝึกที่แสนหนักหน่วงเกินกว่าใครจะคาดคิด เอนเดอร์จะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ และก้าวสู่การเป็นวีรบุรุษแห่งมวลมนุษยชาติได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “เกมพลิกโลก”

การันตีความสนุก ด้วยดีกรีสารพัดรางวัล ยอดขายดีติดอันดับกว่าสิบปี และกำลังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์โดย Wolfgang Petersen ผู้กำกับ Air Force One และ Troy

Amazon.com Bestseller / BarnsAndNoble.com Bestseller
ชนะเลิศรางวัลฮิวโก (รางวัลยอดเยี่ยมของนวนิยายไซไฟแฟนตาซีในอเมริกา)
ชนะเลิศรางวัลเนบิวลา (รางวัลยอดเยี่ยมของนวนิยายไซไฟแฟนตาซีในอเมริกา)
An American Library Association “Best Books for Young Adults”
An American Library Association “100 Best Books for Teens”
Modern Library “Reader’s 100 Best Novels”
Read more

ชวนอ่าน…The End of Eternity จุดดับแห่งนิรันดร์…นิยายไซไฟระดับห้าดาว

The End of Eternity จุดดับแห่งนิรันดร์…นิยายไซไฟระดับห้าดาว

The End of Eternity จุดดับแห่งนิรันดริ์ เป็นนิยายแนวไซไฟ (น่าจะเรียกว่า ฮาร์ดไซไฟก็ได้) ของนักเขียนนิยายไซไฟผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลนาม ไอแซค อาซิมอฟ (Isaac Asimov) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี คศ. 1955 โดย สนพ. Doubleday ครับ


ใครที่เป็นแฟนนิยายไซไฟผมคิดว่าน่าจะได้อ่านกันทุกคน เพียงแต่อาจจะได้อ่านใน version ภาษาไทยในยุคหลายสิบปีมาแล้วที่นิยายวิทยาศาสตร์เป็นที่นิยมในเมืองไทย ถ้าจะให้กะประมาณก็น่าจะเป็นยุค นิยายเรื่องสถาบันสถาปนา ที่อออกมาเป็นซีรีย์ครับ
สำหรับผมเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตอนที่ สนพ.โปรวิชั่นนำออกมาตีพิมพ์ใหม่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตามหน้าปกรูปด้านล่าง

ทำไมแนะนำให้อ่าน?
ท่านที่ชอบนิยายไซไฟแบบสมจริง มีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงในเรื่องเพื่อความทสมจริงไม่น่าจะพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง

The End of Eternity เล่าเรื่องของ ผู้ชำนาญการ (Technician หรือช่างเทคนิค)ที่ชื่อ แอนดรู ฮาร์เลน ซึ่งได้พยายามเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในช่วงเวลาต่างๆ (ว่ากันเป็นพันๆแสนๆศตวรรษ) โดยเดินทางท่องไปตามกาลเวลาด้วยยานเวลาเครื่องมือที่เขาใช้ปรับสภาพแท้จริงให้เป็นไปตามที่มนุษย์นิรันดร์ต้องการ แอนดรู ฮาร์เลนยอมฝ่ากฎระเบียบของนิรันดร์กาลเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ นั่นคือผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ นอยย์ ยีส ….

แต่เรื่องราวคงไม่ออกมาง่ายขนาดนั้นและจบแบบ happy ฮาร์เลนถ้าไม่มีเรื่อง loop ของเวลาเข้ามาเกี่ยว เรื่องของ time paradox และผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ทวิสเซลล์ อีก ทั้งคนที่ขาดไม่ได้คือผู้สร้างแก่นพลังงานของนิรันดร์กาลที่ชื่อ มาลาซอน…. จนทั้งหมดนำไปสู่จุดที่เรียกว่าสามารถช็อคคนอ่านได้ในตอนจบ ชนิดที่คุณจะคาดไม่ถึงเดาไม่ออก



Plot หรือโครเรื่อง The End of Eternity ถูกอาซิมอฟวางไว้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีช่องโหวให้วิจารณ์ว่าไม่กลมกลืนหรือกระโดดออกจากเรื่อง
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาสนับสนุนก็สมเหตุผล ที่สำคัญตอนจบ concept หรือแนวคิดที่ Asimov บอกเรานั้นถือว่าสุดยอดมากในความคิดของผม เป็นสัจธรรมที่ใช้ได้ในทุกยุคสมัยและเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับเรามานุษย์ทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“…มนุษย์ชาติจะเปลี่ยนแปลงได้เพราะมีอุปสรรคและปัญหาเข้ามาหาพวกเขา…” นี่คือคำสรุปสั้นๆที่อาซิมอฟได้บอกเรา

สำหรับผม นี่คือนิยายวิทยาศาสตร์ Hard Sci-fi เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาจะบอกดีที่สุดในโลกก็คงไม่น่าเกลียดครับ

สำหรับรอบสองซึ่งเพิ่งอ่านจบไปเมื่อวานด้วยอายุที่มากขึ้นความคิดประสบการณ์ในการอ่านและเจอเรื่องราวต่างๆทั้งทางรอบตัวและในโลก หลังจากทิ้งช่วงจากภาคแรกสิบปีกว่า ทำให้รู้สึกอิ่มและทึ่งในความคิดของอาซิมอฟเขาไม่เพียงแต่เป็นนักเขียนนิยายไซไฟตลาดๆทั่วไป แต่สำหรับผมแล้ว อาซิมอฟคือผู้วางรากฐานความคิดทางด้านหุ่นยนต์ (ถ้าใครจำกฎสามข้อของหุ่นยนต์ได้) อวกาศและอนาคตได้ราวกับเขามีตาทิพย์มองเห็นสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า นับหลายสิบปี เสียดายครับที่เรายังไม่สามารถหนีความตายพ้น มิฉะนั้นในตอนนี้อาซิมอฟต้องเขียนงานไอเดียแปลกๆให้เราอ่านจนเราคาดไม่ถึง แน่ๆ
Read more

ซูเปอร์ 8 มหาวิบัติลับสะเทือนโลก !!! เมื่อบางอย่างหลุดออกมาจาก area51

ซุปเปอร์ 8 : Super 8

เรื่องย่อ

ในปี 1979 หลังจากที่กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้ปิดล้อมพื้นที่ส่วนหนึ่งที่เรียกว่า Area 51 วัตถุพยานทุกอย่างที่พบในพื้นที่นั้นได้ถูกส่งไปเก็บอย่างแน่นหนาในฐานทัพที่รัฐโอไฮโอ ทว่าได้เกิดอุบัติเหตุกับขบวนรถไฟที่ขนวัตถุเหล่านั้น เมื่อรถไฟตกรางทำให้มีบางอย่างหลบหนีออกจากตู้รถไฟมาได้ ซึ่งในขณะนั้น เด็กๆกลุ่มหนึ่งที่กำลังลองถ่ายหนังด้วยกล้องซูเปอร์ 8 ก็บังเอิญจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ ก่อนที่เจ้าสิ่งนั้นจะก่อให้เกิดเรื่องราวอันน่าสะพรึงกับผู้คนทั่วโลก


ชื่ออังกฤษ Super 8
ชื่อไทย ซูเปอร์ 8 มหาวิบัติลับสะเทือนโลก
ประเภทหนัง Action/Sci-fi
ผู้กำกับ J. J. Abrams
วันที่เข้าฉาย 09 June 2011
นักแสดง Elle Fanning, Kyle Chandler

credit เรื่องย่อจาก majorcineplex



"Matt Reeves ได้ให้สัมภาษณ์ถึงหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ ทั้งSuper 8 กับ Cloverfield 2 ว่า Super 8 นั้นไม่ใช่ Cloverfield 2 แน่นอน แต่สัตว์ประหลาดในเรื่อง Super 8 จะเป็นตัวเองกับ Cloverfield หรือไม่นั้น ต้องเสียตังค์ร้อย สองร้อย ไปดูกันเอง ... ขอทุนคืนบ้างเหอะจอร์จ..."




ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูเรื่องนี้ครับ แต่จากการที่ได้อ่านคนที่ไปดูมาวิจารณ์เอาไว้ แบ่งได้เป็นสองกระแส ความชอบ คือ ชอบและสนุก กับไม่สนุกเอาเลย... คนที่ชอบบอกว่า หนังเรื่องนี้คือ ET+Stand by me อวตารลงมาเกิดเป็นซูปเปอร์ 8 ถึงแม้ว่า J.J. จะเป็นคนกำกับแต่คนที่ดูแลการผลิตผู้อยู่เบื้องหลังคือท่าน สปิลเบิร์ก ... ดังนั้นไม่แปลกที่หนังจะมีกลิ่นไอของ ET ยังไงเรื่องนี้รอดูแผ่นครับ
Read more

ชวนอ่านนิยายไซไฟมนุษย์ต่างดาวของอาเธอร์ ซีคล้าก Arthur C. Clarke

ชวนอ่านนิยายไซไฟของอาเธอร์ ซีคล้าก

ใครที่เป็นคอนนิยายไซไฟ คงรู้จักอาเธอร์ซีคล้าก ดีครับ นักเขียนนิยายไซไฟผู้ยิ่งใหญ่ของโลกอีกคนหนึ่ีง (เทียบชั้นเท่ากับ ไอแซค อาซิมอฟ) จากเราไปหลายปีแล้ว (19 มีนาคม 2008 อายุรวม 90 ปี) แต่ผลงานของท่านยังอยู่ให้นักอ่านรุ่นเก่าเอามาอ่านซ้ำหรือให้นักอ่านรุ่นใหม่ที่สนใจงานขึ้นหิ้งระดับคลาสสิกได้อ่าน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการเป็นนักเขียนนิยายไซไฟได้อ่านเพื่อศึกษาวิธีการเขียน การคิดเรื่องและความยิ่งใหญ่ของนิยายที่คล้ากเขียน


และนี่คือหลายสิ่งที่ผมชอบและไม่ชอบเกี่ยวกับนิยายของท่านคล้าก


1. ผมอ่านนิยายของคล้ากจบแค่สองเรื่อง เรื่องแรกเป็นชุด 2001: A Space Odyssey (1968), 2010: Odyssey Two (1982) (Hugo and Locus Awards nominee, 1983[108]), 2061: Odyssey Three (1987), 3001: The Final Odyssey (1997)
และ Rendezvous with Rama (1972) (BSFA and Nebula Awards winner, 1973;[104] Hugo, Campbell, and Locus Awards winner, 1974[105])

2. ในความรู้สึกผม คล้่ากเขียนนิยายได้น่าเบื่อ อ่านไม่สนุก
นิยายของคล้ากมีจุดเด่นคือ ไอเดียเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่สุดยอด จนคิดไม่ถึงและการนำเสนอที่ไปเรื่อยๆแต่ดึงดูดให้เราอ่านจนจบ ถึงแม้ว่าขณะที่อ่านมันจะน่าเบื่อก็ตามที

3. Childhood's End (1953) สุดสิ้นกลิ่นน้ำนม... ผมได้มาแล้ว แต่ยังอ่านไปได้สิบกว่าหน้า เพราะน่าเบื่อมากๆ แต่ก็ตั้งใจว่าจะต้องลุยให้จบ (1-July-2011) มาอัพเดตเพิ่ม+ ผมอ่านเรื่องนี้จบแล้วครับ หลังจากที่ผ่านช่วงน่าเบื่อไปได้ในช่วงแรกๆ ก็อ่านรวดเดียวจบ บอกได้คำเดียวว่า สุhttp://www.blogger.com/img/blank.gifดยอด...ทึ่งในความคิดที่ยิ่งใหญ่ของคล๊าก ในโลกนี้ไม่มีใครเขียนเรื่องแนวไซไฟมนุษย์ต่างดาวได้ดีที่สุดเท่าคล๊ากอีกแล้ว


4. คล้ากยึดมั่นในแนวตัวเองได้คงเส้นคงวามากๆ ถ้านึกถึงนิยายไซไฟแนวท่องอวกาศหรือมนุษย์ต่างดาว เราจะนึกถึงคล้ากก่อน ขณะเดียวกันถ้าเป็นเรื่องแนวหุ่นยนต์ก็ต้องเป็นอาซิมอฟ

5 มีเรื่องแปลของคล้่ากที่เป็นภาษาไทยน้อยมาก หรือว่าผมหาอ่านไม่ได้ก็ไม่รู้ และผมลองเอาต้นฉบับภาษาอังกฤษมาลองอ่าน ปรากฏว่าอ่านไม่รู้เรื่องครับ... คล้ากเรียงประโยคและใช้คำได้อ่านยากมากๆ

ในวงการนิยายไซไฟของโลก..ถ้าในโลกของหุ่นยนต์มีไอแซค อาซิมอฟเป็นเจ้าพ่อ...โลกของสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญานอกโลกก็มีอาเธอร์ ซีคล๊ากครองอยู่

นี่คือทั้่งหมดที่ผมนึกออกครับ...

ตอนนี้คิดถึงปู่คล๊ากเป็นที่สุด...ในตอนนี้ยังหาใครมาเทียบเทียมไม่ได้เลย

ข้อมูลของคล๊าก ไปที่นี่ครับ >> Arthur C. Clarke เจ้าพ่อนิยายไซไฟมนุษย์ต่างดาว
Read more

Mission: Impossible 4: Ghost Protocol การกลับมาของอีธาน!

'Mission: Impossible 4: Ghost Protocol' Trailer(2011)[HD]


มาแล้วครับ ภาพยนต์แนวสายลับ แอ็คชั่น บู้หักเหลี่ยม เฉือนคม Mission: Impossible ภาคล่าสุด
ภาคนี้ยังได้ Tom Cruise มารับบทนำเช่นเดิม แค่ตัวอย่างก็เดาได้ไม่ยากว่าจะทำเงินถล่มทลายแค่ไหน โดยภาคนี้อีธานของเราต้องโรยตัวไปตามตึกที่สูงชะลูด...



ดูตัวอย่างหนังได้ที่นี่ครับ
คลิ๊กดูตัวอย่างที่ IMDb Mission: Impossible 4: Ghost Protocol

ธันวาคม 2011 นี้เจอกันแน่ครับ+
Read more

10 อันดับหนังไซไฟที่พลาดไม่ได้ในชาตินี้! ตอนที่ 1

10 อันดับหนังไซไฟที่พลาดไม่ได้ในชาตินี้!

บทความตอนนี้คุยกันแบบสบายๆครับ

ผมเป็นคนชอบดูหนังแนวไซไฟครับ พอๆกับชอบดูหนังดราม่าหนักๆประมาณเรื่อง The Last Emperor, Big Fish, Forrest Gump...

คราวนี้ลองนั่งระลึกชาติดูว่าตัวเองชอบเรื่องไหนบ้าง เอาแบบที่สนุกและดีถึงใจจริงๆ
จริงๆแล้วหนังแนวไซไฟถูกสร้างออกมาเยอะมากๆ มีทั้งเกรด A, B และเกรดที่เรียกว่า ห่วยขั้นเทพ
สำหรับผมแล้วมีหนังแนวนี้ไม่กี่เรื่องที่ต้องหามาดูให้ได้ก่อนตาย! เท่าที่นึกออกนะครับ จะพยายามจัดเป็น10อันดับก่อน

ส่วนเกณฑ์ที่ใช้เลือกนั้น เอาความชอบ plot ความสนุก จังหวะ special effect และไอเดียเป็นหลัก ท่านใดอ่านแล้วอาจจะไม่ชอบเหมือนผมก็ไม่แปลก แต่ขอแนะนำให้หาเรื่องเหล่านี้มาดูให้ได้ครับ

1)Back to the future ภาค 1 2 3
เรื่ีองนี้เด่นที่ plot และโครงเรื่องที่ซับซ้อน ไอเดียยานข้ามเวลาที่เอารถเดอเลอรีน มาทำเป็นพาหนะสำหรับใช้ข้ามเวลากันอย่างหนุกหนาน ที่ผมชอบที่สุดคือท่านเซเมคิต ผู้กำกับนำเอาเรื่องทั้งสามภาคมาร้อยเรียงกันได้อย่างกลมกลืนเหมาะเจาะ เรื่องนี้ผมให้เป็นหนังแนวเดินทางข้ามเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมา นำมาดูซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ





2) The Matrix I, II, III
เรื่องนี้เด่นตรง ไอเดียครับ และความเท่ห์ของฉากที่นีโอ พระเอกของเราเอี้ยวตัวหลบกระสุน เรื่องนี้มีการนำเอากล้องรอบทิศทางมาใช้ครั้งแรกในฉากแอ็คชั่น รวมถึงฉากสโลว์โมชั่นที่ถล่มใส่คนดูแบบไม่ยั้ง
เนื้อเรื่อง ดูแล้วสนุกจนบางครั้งปวดกบาลบ้าง เพราะต้องตีความ ปรัชญา ที่แทรกอยู่ในเรื่อง รวมไปถึงใครที่มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมแบบ OOP หรือ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ก็จะดูสนุกมากขึ้น เคนูรีฟของเรากลับมาจากการเงียบหายไปนานจากเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องต่อมาผมก็ยังรู้สึกว่า เจ้านี่คือนีโอ อีกนั่นแหล่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะสวมบทบาทตัวละครตัวอื่นก็ตามที



3)Time Machine
สร้างจากนิยายสุดคลาสสิก อะราก้า ของแฮช จี เวลล์ ... ผมชอบยานเวลา กับไอเดียที่ตัวเอกเดินทางไปในอนาคตแสนๆปีข้างหน้า... สุดยอดมาก คิดได้ไงให้ตัวเอกเดินทางไปไกลขนาดนั้น




4) Transformer I, II สงครามหุ่นยานยนต์ถล่มโลกระเบิดกระท่อม เผาภูเขา!!!
สุดยอด special effect ที่โคตร มหาบัลลัยกัลล์ เท่าที่คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกจะ rendor ภาพได้เหมือนจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียด ภาคแรกดูสนุกจนนั่งไม่ติดตักสาวๆ (อาจจะเพราะมันสด ใหม่) ภาคสอง สารภาพว่าแอบหลับตอนกลางเรื่อง! เนื้อเรื่องดูแล้วมันไปเรื่อยๆ มีฉากถล่มกันจนแอบรำคาน ภาคสาม...ดูแน่ๆ รอด้วยยยยย


เอาสี่อันดับไปก่อนครับ เดี๋ยวที่เหลือมาต่อครับผม
Read more

Transformers: Dark of the Moon หรือ Transformers 3: อภิมหาสงครามหุ่นยานยนต์ถล่มโลก!!

ในที่สุดภาพยนต์ที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงโรงภาพยนต์ใกล้บ้านเราๆท่านๆ...
อภิมหาสงครามหุ่นยานยนต์ถล่มโลก!!!!

Transformers: Dark of the Moon หรือ Transformers 3 เป็นภาคที่ดีที่สุดในแง่ความตั้งใจสร้างของผู้กำกับจอมระเบิดเมืองถล่มภูเขาอย่างไมเคิล เบย์ เนื้อเรื่องจะมีความเป็นดราม่ามากขึ้น (ผมจะหลับไหมเนี่ย ภาคที่แล้วไม่ดราม่ายังนั่งหลับเลยในช่วงกลางๆเรื่อง) และที่สำคัญเป็น 3D ด้วย
ว่ากันว่าเทคโนโลยี 3D ในภาคนี้ดีที่สุดในโลก เจ๋งกว่าอะวาต้า อีกนั่น! ตอนที่ท่านเจมส์ ถ่ายทำหนังเรื่อง Avatar ไมเคิล เบย์ ก็ไปนั่งดูกับท่านเจมส์ ด้วย และสัญญากับตัวเองว่า ตรูจะเอา 3D มาลงในหนังกองทัพรถถล่มโลก ภาค 3 นี้ให้ได้ เพื่อความบันเทิงที่เต็มตรีนและแรงสูบที่เต็มจ๊วบในการดูดกะตังค์จากกระเป๋าของนักดูหนังอย่างเราๆ


ขณะที่ผมกำลังพิมพ์ blog นี้ รีวิว ใน imdb ให้ 7 เต็ม 10 ดาว มาดูกันว่าจะร่วงหรือขึ้นไปมากกว่านี้

โดยส่วนตัว ผมไม่ได้คาดหวังอะไรกับบทของหนังแนวนี้เท่าไหร่ ไปดูเอามันส์เข้าว่า ที่สำคัญหนังภาคต่อที่คุ้มค่ากับการรอคอยนั้นต้องมี

จังหวะในการเล่าเรื่องและการสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดู
เทคนิคพิเศษสุดยอดที่มีมุมกล้องและฉากแอ๊คชั่นต่างไปจากภาคก่อน
ฉากที่อืดๆที่เอาแต่พล่ามๆๆๆๆ ตัดออกไปเลยยยย เราไม่อ้าวววววว
จบแบบมีภาคต่อแน่ๆถ้าคิดว่าเจ๋งจริง

ขอแค่นี้แหล่ะ... ส่วนดาราจะสวย จะหล่อ จะเอ๊กซ์ แค่ไหนไม่สนครับ ขอให้เล่นเหมือนมนุษย์เล่นเป็นพอ ใม่ใช่แข็งเป็นท่อนไม้ตายซาก

ผมยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ครับ กำลังชั่งใจกับสำรวจตังค์ในกระเป๋า (แฟน) ว่าจะดู 3D หรือโรงธรรมดาดี ไ่ม่ชอบแบบ 3D ตรงที่ scale ของตัวละครหรือ gadget จะหดลงกว่าปรกติ

เอาไว้ไปดูเสร็จเมื่อไหร่จะมาบ่นให้ฟังครับ

ข้อมูลภาพยนตร์ Transformers: Dark of the Moon

วันที่เข้าฉาย : 29 มิถุนายน 2011
ผู้อำนวยการสร้าง : Tom DeSanto, Don Murphy, Lorenzo di Bonaventura, Ian Bryce
นักแสดงนำ : Shia LaBeouf, Josh Duhamel, John Turturro, Tyrese Gibson, Rosie Huntington-Whiteley, Patrick Dempsey, Kevin Dunn, Julie White, John Malkovich, Frances McDormand
ประเภทหนัง : Action / Adventure / Sci-Fi
เว็บไซท์ภาพยนตร์ : http://www.transformersmovie.com
จัดจำหน่าย : UIP
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Michael Bay
บทภาพยนตร์ : Ehren Kruger

ใครอยากเสพข้อมูลเพิ่มเติม click ด้านล่างเลยครับ
Read more

Thursday, June 30, 2011

สวัสดีครับ What's up Movie... Now Open!

สวัสดีครับ

วันนี้เป็นวันเปิด blog "What's up Movie"

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาครับ
Read more